นักการศึกษาหลายท่านได้กล่าวถึงการเรียนแบบร่วมมือไว้ดังนี้
การเรียนแบบร่วมมือ
(Cooperative
Learning) เป็นนวัตกรรมทางการเรียนการสอนแพร่หลายมากขึ้น
ตามลำดับโดยเฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกา ได้มีการพัฒนาเทคนิควิธีขึ้นมากมายหลายรูปแบบ
นักวิชาการของไทยหลายท่านได้รวบรวมไว้แล้ว บางท่านเรียกว่า การเรียนรู้แบบสหการ
การเรียนรู้แบบร่วมมือ
(Cooperative
Learning)
เป็นวิธีการสอนแบบใหม่ที่นำมาใช้ในห้องเรียนกำหนดให้ผู้เรียนมีความสามารถต่างกันทำงานร่วมกันเป็นกลุ่มเล็ก
ๆ โดยปกติมี 4 คน เป็นผู้เรียนเก่ง 1 คน ปานกลาง 2 คน และอ่อน 1 คน
เวลาเรียนต้องร่วมมือกัน ผู้เรียนเก่งจะช่วยผู้เรียนอ่อน คะแนนเฉลี่ยเป็นของกลุ่ม
ผลการเรียนของผู้เรียนจะพิจารณาเป็น 2 ตอน ตอนแรกจะพิจารณาค่าเฉลี่ยของทั้งกลุ่ม
ตอนที่สองจะพิจารณาคะแนนสอบเป็นรายบุคคล การสอบทั้ง 2 ครั้ง ผู้เรียนต่างคนต่างสอบ
(สุรศักดิ์ หลาบมาลา, 2531 : 4)
จะเห็นได้ว่าการเรียนแบบร่วมมือ
(Cooperative
Learning)
เป็นการเรียนแบบกลุ่มที่เน้นให้สมาชิกกลุ่มมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของการเรียนร่วมกัน การเรียนแบบร่วมมือนี้จะมีหลายรูปแบบมีวิธีการแตกต่างกันไปแต่จะมีจุดร่วมที่เหมือนกัน
คือ มุ่งเน้นให้ผู้เรียนบรรลุวัตถุประสงค์ของการเรียน ผู้เรียนมีความเข้าในบทเรียนและส่งผลให้การเรียนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
รูปแบบของการเรียนแบบร่วมมือ
รูปแบบของการเรียนแบบร่วมมือ
แบ่งออกเป็น 8 รูปแบบดังนี้
1.
Student
Teams Achievement Divisions (STAD) สมาชิกในกลุ่ม 4 คน
ระดับสติปัญญาต่างกัน เช่น เก่ง 1 คน ปานกลาง 2 คน และอ่อน 1 คนผู้สอนกำหนดบทเรียน
ให้ผู้เรียนทั้งชั้น แล้วให้กลุ่มทำงานตามที่กำหนด
ผู้เรียนในกลุ่มช่วยเหลือกันเด็กเก่งช่วยและตรวจงานของเพื่อนให้ถูกต้องก่อนนำส่งผู้สอนผู้เรียนต่างคนต่างทำข้อสอบแล้วเอาคะแนนของทุกคนมารวมกันเป็นคะแนนของกลุ่ม
ผู้สอนจัดลำดับของคะแนนทุกกลุ่มปิดประกาศให้ทุกคนทราบ
2.
Team – Games – Tournament (TGT) จัดกลุ่มเช่นเดียวกับ STAD
แต่ไม่มีการสอบทุกสัปดาห์
แต่ละทีมมีความสามารถเท่ากันจะแข่งขันตอบปัญหา มีการจัดกลุ่มใหม่ทุกสัปดาห์
โดยพิจารณาจากความสามารถของแต่ละบุคคล
3.
Team
Assisted Individualization (TAI) สมาชิกของกลุ่ม 4 คน
มีระดับความรู้ต่างกันใช้สำหรับระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3-6
ผู้สอนเรียกเด็กที่มีความรู้ระดับเดียวกันของแต่ละกลุ่มมาสอนความยากง่ายของเนื้อหาวิชาที่จะสอนแตกต่างกัน
เด็กกลับไปยังกลุ่มของตน แต่ละคนต่างทำงานที่ได้รับมอบหมาย
แต่ช่วยเหลือซึ่งกันและกันทุกคนสอบข้อสอบ โดยไม่มีการช่วยเหลือกัน
มีการให้รางวัลที่ทำคะแนนได้ดีกว่าเดิม
4.
Cooperative
Integrated Reading and Composition (CIRC) ใช้สำหรับวิชาอ่านเขียนและทักษะอื่น
ๆ ทางภาษา สมาชิกในกลุ่มมี 4 คน มีพื้นฐานความรู้เท่ากัน 2 คน อีก 2 คนก็เท่ากันแต่ต่างระดับความรู้กับ
2 คนแรก ผู้สอนจะเรียกคู่ที่มีความรู้ระดับเท่ากันจากทุกกลุ่มมาสอนคะแนนของกลุ่มพิจารณาจากคะแนนสอบของสมาชิกกลุ่มเป็นรายบุคคล
5.
Jigsaw ใช้สำหรับผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3-6
สมาชิกในกลุ่มมี 6 คน
ความรู้ต่างระดับกันสมาชิกแต่ละคนไปเรียนร่วมกับสมาชิกของกลุ่มอื่น ๆ
ในหัวข้อที่แตกต่างกันออกไปแล้วทุกคนกลับมายังกลุ่มของตน
แล้วสอนเพื่อนในสิ่งที่ตนไปเรียนร่วมกับสมาชิกของกลุ่มอื่น ๆ การประเมินผล
เป็นรายบุคคลแล้วรวมเป็นคะแนนของกลุ่ม
6.
Jigsaw
II สมาชิกในกลุ่มมี 4-5 คน ผู้เรียนทุกคนเรียนบทเรียนเดียวกัน
สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มให้ความสนใจในหัสข้อย่อยในบทเรียนต่างกัน
ใครที่สนใจในหัวข้อเดียวกันจะไปประชุมกัน
ค้นคว้าและอภิปรายแล้วกลับมาที่กลุ่มเดิมของตน
แล้วสอนเพื่อนในเรื่องที่ตนเองไปประชุมกับสมาชิกกลุ่มอื่นมาผลการสอนของแต่ละคนเป็นคะแนนของกลุ่ม
กลุ่มที่ทำคะแนนรวมได้ดีกว่าครั้งก่อนจะได้รับรางวัล
7.
Learning
Together
สมาชิกในกลุ่ม 4 – 5 คน
ระดับความรู้แตกต่างกันใช้สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2-6
ผู้สอนทำการสอนทั้งชั้น
เด็กแต่ละกลุ่มทำงานตามที่ผู้สอนมอบหมายคะแนนของกลุ่มพิจารณาจากผลงานของกลุ่ม
8.
Group
Investigation
สมาชิกในกลุ่มมี 2-6 คน แต่ละกลุ่มเลือกหัวข้อเรื่องที่ต้องการค้นคว้า
สมาชิกในกลุ่มแบ่งงานกันทั้งกลุ่ม เสนอผลงานหรือรายงานหน้าชั้น การให้รางวัลหรือคะแนนให้เป็นกลุ่ม
The casino has a new player bonus: The best slots for
ตอบลบThe casino has a new player 모모벳 bonus: 라이브바카라 The best slots for you. We've reviewed some of the 위닉스사이트 casino's m bet365 most famous slots with top 실시간 바카라 casino